นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ไทย-ไลซาท จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการชี้แจงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ว่าบริษัทได้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะอธิบายให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ การดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งต่อไปจะรวมเรียกว่า“การประมวลผล”) ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงใคร่ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างละเอียด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ไทย-ไลซาท จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการชี้แจงการจัดการข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ว่าบริษัทได้ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะอธิบายให้ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบถึงวัตถุประสงค์ การดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ซึ่งต่อไปจะรวมเรียกว่า“การประมวลผล”) ตลอดจนสิทธิตามกฎหมายของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจึงใคร่ขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลศึกษาและทำความเข้าใจนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้อย่างละเอียด
1.นิยาม
2.การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
3.ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ
คือ ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษ ตามมาตรา 26 ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เช่น เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกัน โดยบริษัทจะเข้าถึง เก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลด้วยความระมัดระวังตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด บริษัทจะแจ้งข้อมูลรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทพิเศษดังกล่าวต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ก่อนหรือขณะที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูล ภายใต้เงื่อนไขหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด4.วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
5.การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ บริษัทจะมีการปรับปรุงและทดสอบระบบเทคโนโลยีของบริษัทอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลมีความปลอดภัยสูงสุดและน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ดี บริษัทอาจไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลได้ทุกกรณี ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลเกิด สูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไขหรือเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล อันมีสาเหตุมาจากการถูกจู่โจมโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือถูกจารกรรม โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ (hack) หรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ปราศจากอำนาจ หรือเกิดจากเหตุสุดวิสัย หรือไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น และ บริษัทไม่ต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย สูญหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากเหตุดังกล่าวทั้งสิ้น บริษัทแนะนำให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส เพื่อป้องกันการถูกจู่โจมหรือจารกรรมข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นความลับ
6.การเปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก
บริษัทอาจใช้ดุลยพินิจแต่เพียงฝ่ายเดียวในการเปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบุคคลที่สามซึ่งกำหนดตัวตนได้แน่นอน และมีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนด เท่าที่จำเป็นภายใต้ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ รวมถึง บริษัทในเครือ บริษัทร่วม พันธมิตรทางธุรกิจ คู่สัญญาของบริษัท หน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนด
7.การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมมาใช้ ไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ในการดำเนินกิจการของบริษัทเท่าที่จำเป็น ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตกลงและยินยอมให้บริษัทส่งข้อมูลส่วนบุคคลออกนอกประเทศไทย ไปยังบุคคลหรือหน่วยงานที่อยู่ในประเทศอื่น หรือภายใต้เขตอำนาจกฎหมายของประเทศอื่น ไม่ว่ากฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในประเทศนั้นอาจถึงเกณฑ์หรือไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทยหรือไม่ ทั้งนี้ บริษัทจะปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมในการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลในระดับเดียวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย
8.สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
9.ข้อยกเว้นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
10.ระยะเวลาการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ หรือจนกว่าบริษัทจะได้รับแจ้งการขอเพิกถอนความยินยอมการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบริษัท เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดหรืออนุญาตให้จัดเก็บไว้ได้นานกว่านั้น
11.การปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงให้ทันสมัย แก้ไข และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดเวลา ซึ่งถือเป็นดุลยพินิจของบริษัทแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยการเปลี่ยนแปลงจะมีผลทันทีหลังจากที่การเปลี่ยนแปลงได้ถูกประกาศบนเว็บไซต์ www.thai-lysaght.co.th ทั้งนี้ บริษัทขอให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตรวจสอบนโยบายคุ้มครองครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอยู่เสมอ โดยบริษัทจะถือว่าเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้มีการปรับปรุง แก้ไข และเปลี่ยนแปลงดังกล่าวโดยครบถ้วนแล้ว
12.กฎหมายที่ใช้บังคับ
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จะถูกควบคุมและตีความตามกฎหมายที่บังคับใช้ของประเทศไทย ข้อโต้แย้งใดๆ ที่เกี่ยวกับเว็บไซต์นี้ รวมถึงสิทธิ ข้อผูกพัน และการดำเนินการทั้งหมดที่อยู่ภายใต้นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ จะถูกส่งไปยังศาลที่มีเขตอำนาจพิจารณาคดีแห่งราชอาณาจักรไทย
13.ติดต่อเรา
หากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีข้อสอบถาม ข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน เกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท โดยผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2565 TL.1.0